New Step by Step Map For เส้นก๋วยเตี๋ยวต่างๆ
New Step by Step Map For เส้นก๋วยเตี๋ยวต่างๆ
Blog Article
เส้นที่ดี ต้องไม่แตกหรือหัก เมื่อนำไปผัดต้องไม่เละ
เส้นก๋วยจั๊บเป็นเส้นที่ได้รับมาจากประเทศจีน มีส่วนประกอบหลักคือแป้งข้าวเจ้า ตัวเส้นจะถูกตัดเป็นแผ่นสามเหลี่ยมหรือสี่เหลี่ยม แล้วนำไปอบแห้ง เมื่อนำมาลวกจนสุก ตัวเส้นจะม้วนเข้าหากันเป็นลักษณะคล้ายหลอด นิยมทำเมนูก๋วยจั๊บ ทั้งน้ำข้น และน้ำใส
เส้นหมี่แบบแห้ง โดยทั่วไปบรรจุอยู่ในห่อพลาสติก เส้นจะแข็งกรอบ ก่อนนำมาใช้ปรุงอาหารต้องนำไปแช่น้ำเสียก่อน ถ้าต้องการทอดให้พอง สามารถใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องแช่น้ำ บางท้องถิ่นเรียกเส้นหมี่ว่า “หมี่ขาว” เพื่อไม่ให้สับสนว่าเป็นบะหมี่
เส้นก๋วยเตี๋ยวหลอด ก็ใช้เส้นใหญ่แทนได้เหมือนกัน แต่ที่ขายตามท้องตลาดเรียกแผ่นก๋วยเตี๋ยวหลอด ซึ่งจะบางกว่าปกติและคลุกกุ้งแห้ง นำไปนึ่งให้ร้อนก่อนนำมาห่อไส้
เส้นหมี่ หรือเส้นหมี่ขาว ทำจากแป้งข้าวเจ้า เส้นเล็ก เรียว ยาว โดยมากจะใช้แบบแห้ง ก่อนนำมาทำอาหารต้องแช่นำ้ให้นุ่มสักครู่ นำไปทำได้ทั้งเมนูลวก
ทำจากแป้งข้าวเจ้าที่ผ่านการหมัก (แช่น้ำ ) ก่อนนำมาทำเส้น มีสีออกน้ำตาล เหนียว นุ่ม กว่าขนมจีนแป้งสด และเก็บได้นานกว่า
เส้นที่ทำจากข้าว: ให้คาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของร่างกาย นอกจากนี้ ยังมีวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด
เส้นเล็ก และ เส้นจันท์ ทำจากแป้งข้าวเจ้า มีทั้งแบบเส้นสดและเส้นแห้ง แตกต่างกันที่กรรมวิธีการผลิตและการเก็บรักษา เส้นแห้งเก็บได้นานกว่า แต่ก่อนใช้ต้องแช่น้ำให้นิ่ม หรือถ้านำไปใช้เลยก็ต้องลวกหรือต้มนานสักหน่อย เส้นก๋วยเตี๋ยวต่างๆ หากเป็นเมนูผัดก็ควรเติมน้ำระหว่างผัดเล็กน้อย เลือกใช้ได้ตามสะดวก
การทำอาหาร เส้นก๋วยเตี๋ยวมีกี่ประเภท
สุขภาพ การแพทย์ เทคโนโลยี การเงิน การศึกษา การทำอาหาร การเรียนรู้ เคล็ดลับ อาหาร งาน
เลือกเส้นที่หลากหลาย: การทานเส้นก๋วยเตี๋ยวที่หลากหลายชนิด จะช่วยให้คุณได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
ควบคุมปริมาณการบริโภค: ทานก๋วยเตี๋ยวในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป
ลักษณะคล้ายเส้นก๋วยจั๊บ มีสีเขียวใส ทำจากผงถั่วเขียว สีเขียวได้มาจากการผสมสาหร่าย ใบเตย และสีผสมอาหาร เส้นเซี่ยงไฮ้ที่ขายเป็นแผ่นเส้นแห้ง ต้องแช่น้ำก่อนใช้ ลักษณะเนื้อเหมือนหนึบกรอบ เมื่อนำมาลวก ตัวเส้นจะม้วนเป็นท่อนกลมๆ นิยมนำไปผัดแบบจีน ทำก๋วยเตี๋ยวผัด ผัดขี้เมา หรือทำเมนูยำเส้นเซี่ยงไฮ้
เส้นก๋วยเตี๋ยวแต่ละชนิดให้คุณค่าทางโภชนาการที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตและกรรมวิธีการผลิต